สาระน่ารู้

จักรวรรดิโรมัน
IMPERIVM ROMANVM
จักรวรรดิ
 27 BC–ค.ศ. 330
ค.ศ. 330 - 476 (ตะวันตก)
 

 

Vexilloid
คำขวัญ
SENATVS POPVLVSQVE ROMANVS (SPQR)
จักรวรรดิ​โรมัน​ใน​ช่วงที่ยิ่ง​ใหญ่​ที่สุด ​เมื่อประมาณ​ ​ค.ศ.117
เมืองหลวงโรม
(พ.ศ. 500-พ.ศ. 829

คอนสแตนติโนเปิล
(ตั้งแต่ พ.ศ. 873
ภาษาละติน ต่อมา (ในจักรวรรดิตะวันออก) กรีก
ศาสนาเทพเจ้าโรมัน ต่อมา คริสต์ศาสนา
รัฐบาลราชาธิปไตย
จักรพรรดิ
 - พ.ศ. 517-557จักรพรรดิออกัสตัส
 - พ.ศ. 641-660จักรพรรดิทราจัน
 - พ.ศ. 827-848จักรพรรดิไดโอคลีเชียน
กงสุล
 - พ.ศ. 517-521ออกุสตุส
 - พ.ศ. 1019บาซิลิสคุส
สภานิติบัญญัติสภาซีเนต
ยุคประวัติศาสตร์Classical antiquity
 - ออกุสตุส ซีซาร์ประกาศตัวเป็นผู้ปกครองคนเดียว27 BC
 - ยุทธการแอคทิอุม2 กันยายน พ.ศ. 513
 - ออคเตเวียนได้เป็นออกุสตุส16 มกราคม พ.ศ. 517
 - ไดโอคลีเชียนแยกการปกครองเป็นฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกพ.ศ. 828
 - พระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 ประกาศให้คอนสแตนติโนเปิลเป็นเมืองหลวงใหม่พ.ศ. 873
 - โรมิวลุส ออกุสตุส ถูกยึดอำนาจโดย Odoacer4 กันยายน พ.ศ. 1019 ค.ศ. 330
ค.ศ. 330 - 476 (ตะวันตก)
พื้นที่
 - สูงสุด5,900,000 ตร.กม. (2,278,003 ตารางไมล์)
ประชากร
 - สูงสุด ประมาณการ88,000,000 
     ความหนาแน่น14.9 คน/ตร.กม.  (38.6 คน/ตารางไมล์)
สกุลเงินSolidus, Aureus, Denarius, Sestertius, As

จักรวรรดิโรมันในช่วงเวลาต่างๆกัน
จักรวรรดิโรมัน (ละตินImperivm RomanvmกรีกโบราณῬωμαϊκὴ Αὐτοκρατορία หรือ Ἡ Ῥωμαίων βασιλείαอังกฤษRoman Empire) เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งของอารยธรรมโรมันโบราณซึ่งปกครองโดยรูปแบบอัตตาธิปไตย จักรวรรดิโรมันได้สืบต่อการปกครองมาจากสาธารณรัฐโรมัน (510 ปีก่อนคริสตกาล - ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตาล) ซึ่งได้อ่อนแอลงหลังจากความขัดแย้งระหว่างไกอุส มาริอุสและซุลลาและสงครามกลางเมืองระหว่างจูเลียส ซีซาร์และปอมปีย์[1] มีวันหลายวันที่ได้ถูกเสนอให้เป็นเส้นแบ่งของการเปลี่ยนแปลงระหว่างสาธารณรัฐและจักรวรรดิ ได้แก่
จักรวรรดิโรมันเคยมีดินแดนอยู่ในการครอบครองมากมาย ได้แก่ อังกฤษและเวลส์ ยุโรปส่วนใหญ่ (ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์และทางใต้ของเทือกเขาแอลป์) ชายฝั่งของแอฟริกาเหนือ บริเวณมณฑลใกล้เคียงของอียิปต์ แถบบอลข่าน ทะเลดำ เอเชียไมเนอร์ และส่วนใหญ่ของบริเวณลีแวนท์ ซึ่งดินแดนเหล่านี้ จากตะวันตกสู่ตะวันออกในปัจจุบันได้แก่ โปรตุเกส สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี แอลเบเนียและกรีซ แถบบอลข่าน ตุรกี ภาคตะวันออกและภาคตะวันตกของเยอรมนี ทางภาคใต้จักรวรรดิโรมันได้รวบรวมตะวันออกกลางไว้ ซี่งในปัจจุบันก็ได้แก่ซีเรียเลบานอน อิสราเอล จอร์แดน จากนั้นในภาคตะวันตกเฉียงใต้ จักรวรรดิได้รวบรวมอียิปต์โบราณไว้ทั้งหมด และได้ทำการยึดครองต่อไปทางตะวันตกซึ่งเป็นบริเวณชายฝั่งทะเลซี่งในปัจจุบันคือประเทศลิเบีย ตูนิเซีย แอลจีเรียและโมร็อกโก จนถึงตะวันตกของยิบรอลตาร์ ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิโรมันเรียกว่าชาวโรมัน และดำเนินชีวิตภายใต้กฎหมายโรมัน การขยายอำนาจของโรมันได้เริ่มมานานตั้งแต่ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเรืองอำนาจสูงสุดในสมัยจักรพรรดิทราจัน ด้วยชัยชนะเหนือดาเซีย (ปัจจุบันคือประเทศโรมาเนียและมอลโดวา และส่วนหนึ่งของประเทศฮังการี บัลแกเรียและยูเครน) ในปี ค.ศ. 106 และเมโสโปเตเมียในปี ค.ศ. 116 (ซึ่งภายหลังสูญเสียดินแดนนี้ไปในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียน) ถึงจุดนี้ จักรวรรดิโรมันได้ครอบครองแผ่นดินประมาณ 5,900,000 ตร.กม. (2,300,000 ตร.ไมล์) และห้อมล้อมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งชาวโรมันเรียกทะเลนี้ว่า mare nostrum "ทะเลของเรา" อิทธิพลของโรมันได้ส่งผลต่อการพัฒนาทางด้านภาษา ศาสนา สถาปัตยกรรม ปรัชญา กฎหมายและระบบการเมืองมาจนถึงทุกวันนี้
จักรวรรดิถูกแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกในสมัยของจักรพรรดิไดโอคลีเชียน และถือว่าจักรวรรดิโรมันล่มสลายลงในช่วงเวลาประมาณวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 476 เมื่อจักรพรรดิโรมิวลุส ออกุสตุส จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกถูกขับไล่และเกิดการจลาจลขึ้นในโรม (ดูในการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน) อย่างไรก็ตาม จักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือที่รู้จักกันในชื่อจักรวรรดิไบแซนไทน์ก็ได้รักษากฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณีแบบกรีก-โรมัน รวมถึงศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ไว้ได้ในอีกสหัสวรรษต่อมา จนถึงการล่มสลายเมื่อเสียกรุงคอนแสตนติโนเปิลให้กับจักรวรรดิออตโตมัน ในปีค.ศ. 1453

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น